แกล้ง “กะเพรา” วิธีทำให้ต้นกระเพราโตเร็ว ออกใบเยอะ อายุยืน
แกล้ง “กะเพรา” วิธีทำให้ต้นกระเพราโตเร็ว ออกใบเยอะ อายุยืน
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/kp/aa/n3.jpg)
แกล้ง “กะเพรา” วิธีทำให้ต้นกระเพราโตเร็ว ออกใบเยอะ อายุยืน
เผยเคล็ดลับกับเทคนิคการ แกล้ง “กะเพรา” ของชาวสวนกะเพรา ที่หลายท่านยังไม่รู้ ทำอย่างไรปลูกกะเพราให้สูงใหญ่ ออกใบเยอะ แตกยอดดี เด็ดแทบไม่ทัน
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/p2/wx/y6.jpg)
การแกล้งกะเพรานี้ เป็นวิธีที่ถูกเผยแพร่จาก เกษตรกรสวนกะเพราผู้มากประสบการณ์และได้รับการเผยแพร่จาก อาจารย์กมล สุวุฒโท อดีตอธิการบดีสถาบันบัณฑิตพัฒนศิลป์ โดยได้เปิดเผยว่าทุกๆเช้าให้เราเด็ดยอดอ่อนของใบกะเพราทุกวัน โดยเด็ดยอดที่เป็นดอกเท่านั้นนะคะ เพื่อไม่ให้ออกดอกได้ เพราะเจ้าดอกกะเพรานี่หละ เป็นการกระบวนการขยายพันธุ์ตามธรรมชาติของมัน
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/1q/qu/3m.jpg)
และถ้าเมื่อกะเพราออกดอกเมื่อไหร่ต้นจะเหี่ยวเฉาและหมดอายุในที่สุด ดังนั้น ถ้าเราหมั่นเด็ดดอกกะเพราออกทุกวัน ต้นกะเพราะก็จะเข้าใจว่าไม่สามารถขยายพันธุ์ต่อได้อีก ทำให้ต้องรีบแตกหน่อ ออกดอก ออกใบให้เยอะขึ้น เป็นการแกล้งให้กะเพราเข้าใจผิด ( เข้าใจผิดว่าตัวเองจะสูญพันธุ์ต้องรีบ ออกดอก ออกลูก มาเพิ่มเยอะๆ )
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/z2/vp/bx.jpg)
เมื่อเวลาผ่านไป จากกะเพราต้นเตี้ยๆธรรมดาก็จะเติบโตเป็นต้นขนาดใหญ่ได้เร็วกว่าปกติ ( ถูกบังคับให้ต้องเร่งการเจริญเติบโต ) ใช้วิธีนี้รับรองต้นสูงใหญ่ ใบเยอะ ตลอดทั้งปีแน่นอนทั้งยังอายุยืนยาวกว่ากะเพราปกติอีกด้วย แต่ที่สำคัญต้องเด็ดทุกวันด้วยนะ คราวนี้รับรองว่าเก็บกะเพราขายกันไม่หวาดไม่ไหวแน่นอน
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/yd/z0/r5.jpg)
ข้อแนะนำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ผลดีควรใส่ปุ๋ยควบคู่กับการแกล้งกระเพรา
– รดน้ำวันละ 1-2 ครั้ง หรืออาจให้วันเว้นวันเมื่อต้นกระเพราแตกกิ่งเป็นพุ่มใหญ่
– ใช้ปุ๋ยคอก ร่วมกับปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 หลังปลูกประมาณ 2-4 อาทิตย์ เมื่อต้นกล้าตั้งต้นได้แล้ว
– ใช้จุลินทรีย์สังเคราะห์แสงเพื่อช่วยเร่งปฎิกิริยาของปุ๋ยในดิน และ ช่วยปรับสภาพดินให้เหมาะกับการเจริญเติบโต
สำหรับสายพันธุ์กระเพราที่นิยมปลูกมีอยู่ 3 สายพันธุ์หลักๆได้แก่
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/hr/v1/jw.jpg)
1. กระเพราใบเขียว ก้านแดง เป็นพันธุ์ที่มีใบ และดอกเป็นสีขาว แต่มีลักษณะก้านใบ และก้านดอกเป็นสีแดง รวมถึงใบเขียวหรือเขียวอมแดง เป็นกระเพราที่มีกลิ่นฉุน และ เผ็ดร้อน กำลังพอดี เหมาะสำหรับนำมาทำผัดกระเพรา เพราจะได้รสชาติกระเพราที่กลมกล่อม หอมกำลังพอดี
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/ay/m0/11.jpg)
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/ay/m0/11.jpg)
2. กระเพราใบเขียว ก้านเขียวหรือก้านขาว เป็นพันธุ์ที่มีก้านใบ ก้านดอก ใบ เป็นสีเขียว และดอกเป็นสีขาว มีใบใหญ่ รสชาติออกหวาน ไม่ค่อยมีกลิ่นฉุนหรือรสเผ็ด
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/8n/4x/oy.jpg)
3. กระเพราใบแดง ก้านแดง เป็นพันธุ์มีก้านใบ ก้านดอก และดอกเป็นสีแดงอมม่วง ใบมีสีแดงม่วงอมเขียว เป็นกระเพราที่มีกลิ่นฉุนมาก และ รสเผ็ดรอนมากที่สุดในกระเพราทั้งหมด เหมาะสำหรับนำมาทำอาหารที่ต้องการปรุงรสให้เผ็ดร้อน เช่น ต้มโคล้ง หรือ ผัดกระเพราที่มีรสจัด
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/er/yz/sr.jpg)
วิธีการปลูกกะเพราด้วยการปักชำ
วิธีปักชำทำได้โดยการเลือกเอากิ่ง กลางแก่ กลางอ่อน มาเด็ดส่วนยอดดอก นำไปปักชำในกระถาง หรือแปลงที่เตรียมไว้ เทคนิคการปักคือ ให้ปักต้นเฉียง 45 องศา แล้วนำดินมากลบส่วนที่ปักชำบาง ๆ จากนั้น เอาฟางคลุมและรดน้ำให้ชุ่มเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
(https://fr.lnwfile.com/_/fr/_raw/p4/3t/rh.jpg)
วิธีการปลูกกะเพราด้วยเมล็ด
1. เตรียมดินละเอียดเทลงไปในกระถาง
2. หว่านเมล็ดให้ทั่วแปลง ใช้ฟางกลบ หรือปุ๋ยคอกโรยทับบางๆ
3. รดน้ำตามทันที ควรใช้ฟักบัวรดน้ำต้นไม้รูเล็กๆ นะคะ
4. จากนั้นอีกประมาณ 7 วัน เมล็ดจะงอกเป็นต้นกล้า
5. รอจนต้นกล้าอายุ 1 เดือน ก็ค่อยๆ ถอนแยกจัดระยะต้นให้ทีระยะห่างระหว่างต้นประมาณ 20-30 เซนติเมตร
6. และก็รอให้ต้นกล้าโตเต็มที่จากนั้นก็เก็บใบมารับประทานได้แล้วค่ะ
ขอบคุณบทความจาก : postnoname.com