สวัสดี

ยินดีต้อนรับคุณ, บุคคลทั่วไป กรุณา เข้าสู่ระบบ หรือ ลงทะเบียน

ผู้เขียน หัวข้อ: 2 เรื่องจริงที่พ่อเเม่ยุคนี้ ไม่เคยสอนให้ลูกรู้ถึงความลำบาก  (อ่าน 3581 ครั้ง)

Admin
  • Administrator
  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 36601
    • ดูรายละเอียด
2 เรื่องจริงที่พ่อเเม่ยุคนี้ ไม่เคยสอนให้ลูกรู้ถึงความลำบาก


2 เรื่องจริงพ่อเเม่ยุคนี้ ไม่เคยสอนให้ลูกรู้ถึงความลำบาก
การสอนลูกในยุคสมัยนี้หลายคนก็ให้ลูกอยู่อย่ างสุขสบาย เป็นเหมือนดั่งไข่ในหินเลย เพราะว่ากลัวลูกจะลำบาก กลัวลูกจะได้รับอันตรายอยากให้ลองดู 2 เรื่องจริงพ่อเเม่ยุคนี้ จะช่วยให้ข้อคิดอะไรหลายอย่างเลย เพราะการเลี้ยงลูกให้อยู่สบายเกินไปมันอาจจะเป็นผลร้ายต่อตัวลูกก็ได้ มีเรื่องของ 2 ครอบครัวให้ดูเปรียบเทียบกัน



ครอบครัวที่ 1 พ่อแม่เป็นหนี้เกือบ 20 ล้าน
ครอบครัวนี้พ่อทำงานหนักเพื่อจะได้พาครอบครัวอยู่ได้ และหาเงินปลดหนี้ในส่วนลูกชายนั้นกำลังเข้าเรียนมหาลัยพอตกบ่ายก็เข้าห้องเล่นเกมกินข้าว เที่ยวกับเพื่อน พ่อแม่เองก็เเก่ลงไปทุกวันส่งของให้ลูกค้าไม่ทันเลยโทรบอกให้ลูกชายมาช่วยพ่อ
แต่ลูกกลับตอบพ่อเขาว่าทำไมป๊าไม่รับสมัครคนงาน แล้วเขาก็ตัดสายไปและนั่งเล่นเกมต่ออย่างสบายใจ โดยไม่ได้ใส่ใจเลยว่าพ่อจะทำงานหนักแค่ไหนและแล้ววันหนึ่งพ่อก็จากไปโดยยังทิ้งภาระหนี้เอาไว้ให้ แล้วแม่ก็นำเขาไปฝากกับญาติ ส่วนแม่ก็ละทางโลกไปบวชชี
ตอนนี้เขาไม่เหลืออะไรแล้วบ้านหลังใหญ่ที่เคยอยู่ก็ไม่มีเพราะธนาคารยึดหมดแล้วรถที่มีอยู่อะไรขายได้ก็ขายเพื่อเป็นค่าเทอม แต่สุดท้ายก็ไม่มีเงินเรียนจนต้องลาออกจากมหาลัยกลางคัน
เขาเลยต้องหันไปขอความช่วยเหลือเพื่อน ๆ เพื่อนก็หายหน้าหมด เลยไปทำงานที่ร้านเกมที่ไปเล่นประจำเป็นคนเฝ้าร้านเกม



ครอบครัวที่ 2 อยู่บ้านห้องแถวธรรมดา
เป็นบ้านที่อยู่ระแวกเดียวกันกับครอบครัวแรกที่รวยหลายร้อยล้านซึ่งทำการค้าขายด้วยตัวเองโดยการตื่นเช้าทุกวันขยันช่วยพ่อแม่หาเงินแล้วก็ไปเรียนเพื่อหาความรู้ ในช่วงบ่ายว่างจากการเรียนก็มาช่วยงานยกของที่บ้าน ช่วยงานกรรมกรตอนค่ำก็ปิดร้านดึกหน่อยก็เตรียมการบ้านอ่านเขียวคนที่บ้านมีปัญหาป่วยไข้ไม่สบายเขาจะลาอาจารย์กลับมาดูแลตลอด
ในตอนนี้เขาก็มีงานมีเงินหลายร้อยล้าน และที่ร่ำรวยได้ก็เพราะความสามารถของเขาเองเรียนจบมาก็ทำงานดูแลครอบครัวและอยู่อย่างมีความสุขในบั้นปลายชีวิตก็ไม่ยากลำบากอะไร
แล้วคุณอยากจะให้อนาคตลูกเป็นแบบไหนการอบรมเลี้ยงดูก็เป็นสิ่งสำคัญมาก ๆการรักลูกนั้นมันดีแต่ก็ควรจะฝึกฝนเขาไปในตัวด้วยเพื่อให้มีทักษะในการใช้ชีวิตจริงในสังคมได้และเติบโตมาเป็นคนดีของสังคม และสามารถเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์


ขอบคุณรูปเเละบทความดีๆจาก www.sabuyjaijung.com